Nvidia แซง Apple, Microsoft ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุด

Nvidia แซง Apple, Microsoft ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุด

Investing.com — Nvidia ก้าวกระโดดอย่าง Apple (NASDAQ:AAPL) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) เพื่อคว้าตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในวันอังคาร ในขณะที่ผู้ผลิตชิปยังคงขับเคลื่อน AI-wave ไปสู่ระดับใหม่

NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ผลักดันมูลค่าตลาดของบริษัทเป็น 3.34 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้า Microsoft ที่ 3.31 ล้านล้านดอลลาร์ และที่ 3.29 ล้านดอลลาร์ของ Apple ทำให้ผู้ผลิตชิปเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด

การฟื้นตัวของ Nvidia เกิดขึ้นเมื่อกองทุน Technology Select Sector SPDR ได้รับการตั้งค่าสำหรับการปรับสมดุลใหม่หรือการเขย่าเมื่อสิ้นสุดการซื้อขายในวันศุกร์ ซึ่งจะเห็นผู้ผลิตชิปสร้างสัดส่วนที่มากขึ้นของดัชนี

Nvidia ชั่งน้ำหนักในเทคโนโลยี ETF คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเป็นประมาณ 21% ซึ่งตรงกับการถ่วงน้ำหนักของ Microsoft ในขณะที่ Apple คาดว่าจะลดลงเหลือประมาณ 4.5% ผลก็คือ State Street (NYSE:STT) Global Advisors ซึ่ง Technology Select Sector SPDR Fund จะซื้อหุ้น Nvidia มูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่กองทุนอื่นๆ ที่ติดตามดัชนีจะเพิ่มความเสี่ยงตามลำดับ
ผู้ผลิตชิปที่เพิ่มขึ้นยังได้รับแรงหนุนจากกระแสตอบรับจาก Rosenblatt Securities ที่เพิ่มเป้าหมายราคาหุ้น Nvidia ขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 200 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 140 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่ามีอัพไซด์เกือบ 50% จากราคาปัจจุบัน
การปรับขึ้นราคาเป้าหมายสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงบวกสำหรับผลประกอบการของ Nvidia ซึ่ง Rosenblatt ประมาณการว่าจะมีมูลค่าสูงสุด 5 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปฏิทินปี 2569 การคาดการณ์ของ Rosenblatt ชี้ไปที่ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ผลิตชิปจากชิป AI ที่มีอยู่และที่กำลังจะมาถึง

ชิปของ Nvidia รวมถึง Hopper, Blackwell และ Rubin คาดว่าจะช่วยให้ผู้ผลิตชิปเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดต่อไป โดยคาดว่าจะได้รับโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ AI ในอนาคตจาก “การแบ่งปันสวิตช์/NiC/DPU เครือข่ายที่อยู่ติดกัน” Rosenblatt กล่าวเสริม แต่ความจริงแล้ว การเล่าเรื่องในอนาคตคือซอฟต์แวร์ซึ่งชมเชย “ความดีของฮาร์ดแวร์ทั้งหมด”
Rosenbaltt คาดการณ์ว่าด้านซอฟต์แวร์ของ Nvidia จะ “เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทศวรรษหน้าในแง่ของส่วนประสมยอดขายโดยรวม โดยมีอคติต่อการประเมินมูลค่าที่สูงขึ้นเนื่องจากความยั่งยืน”

Related Posts
Leave a Reply